สุดยอดความลับโซเวียต

Last updated: 31 ม.ค. 2560  |  1040 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สุดยอดความลับโซเวียต

สุดยอดความลับโซเวียต

สุดยอดความลับอันดับที่ 6: โศกนาฏกรรมที่เกิดจากความอดอยากที่ร้ายแรงที่สุด

ผลจากการปฏิรูปทางเศรษฐกิจในยุคโซเวียต ในปี 1932 – 1933 ภายใต้การนำของสตาลิน ได้เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนักจนเป็นเหตุที่ทำให้ผู้คนต้องเสียชีวิตลงหลายล้านคน แต่เรื่องนี้สตาลินได้ปิดเป็นความลับโดยไม่ให้แพร่งพรายไปยังดินแดนอื่นๆทั้งในและต่างประเทศ โดยดินแดนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มากที่สุดคือ ดินแดนแถบยูเครน คำถามก็คือว่า ทำไมสถานที่ที่ดูเหมือนจะเป็นที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะกับการเพาะปลูกเช่นนั้นจึงขาดแคลนอาหารได้

เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเหตุให้คนหลายล้ายคนต้องจบชีวิตลงจากความหิวโหย นักวิเคราะห์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในหลากหลายทฤษฎี โดยสาเหตุหลักก็คือ เกิดความแห้งแล้งขนาดหนักในดินแดนที่เคยมีการเพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ในไซบีเรียตะวันตก คาซัคสถาน ดินแดนแถบอูราล รวมถึงดินแดนทางตอนกลางและตอนใต้ของแม่น้ำโวลก้า ด้วยเหตุนี้ผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะวัตถุดิบประเภทพืชพันธุ์ที่นำมาทำเป็นอาหารหลักเช่น ขนมปัง จึงเกิดการขาดแคลนอย่างหนัก

นอกจากนี้ การส่งออกผลผลิตทางการเกษตรยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก รวมถึงกฎหมายที่แข็งกร้าวที่แม้แต่ชาวไร่ชาวนาเองก็ไม่มีโอกาสได้กินพืชผลที่ตนเองทำการเพาะปลูกกับมือ ผลผลิตทุกอย่างที่ชาวนาชาวไร่ทำได้บนดิน จะต้องถูกนำไปรวมไว้ที่สถานที่ที่รัฐได้จัดไว้ ข้าวทุกเม็ดถือเป็นทรัพย์สินของรัฐ และหากใครก็ตามที่ขโมยพืชผลเหล่านั้นไปเป็นของตนเองก็จะถูกลงโทษด้วยกฎหมายขั้นรุนแรงและอาจถึงประหารชีวิต ในขณะที่ดินแดนที่เคยเพาะปลูกได้ในขณะนั้นเกิดผลผลิตตกต่ำ ดินแดนยูเครนจึงถือเป็นดินแดนเดียวที่จะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำให้กับโซเวียตได้ ดังนั้น ชาวยูเครนจึงถูกสั่งให้ทำงานอย่างหนักเพื่อผลิตวัตถุดิบที่ใช้สำหรับอาหาร แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลงเรื่อยๆ ความอดอยากเริ่มแผ่ไปยังเมืองต่างๆ รวมถึงในเมืองหลวงเช่นมอสโก และเลนินกราดในขณะนั้น สิ่งที่ซ้ำเติมให้ความอดอยากยิ่งทวีความรุนแรงก็คือภัยพิบัติทางการเกษตรและโรคติดต่อในสัตว์ ผู้คนในขณะนั้นล้มตายลงจากความหิวโหยเป็นจำนวนมาก และดูเหมือนว่าดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดกลับกลายเป็นดินแดนที่ขาดแคลนที่สุด

สตาลินปกปิดข่าวนี้ไม่ให้แพร่งพรายไปทั้งในและต่างประเทศ เมื่อต่างชาติเกิดข้อสงสัยเคลือบแคลงถึงข่าวลือนี้ สตาลินก็แก้ไขปัญหาด้วยการจัดฉากให้บรรดาตัวแทนจากต่างประเทศได้เข้าชมความเป็นอยู่ของคนในเมือง สตาลินตบตาชาวต่างชาติเหล่านั้นว่าความอดอยากที่พวกเขาได้ยินมาก่อนหน้านั้นไม่ได้เป็นความจริง ด้วยการที่เขาสั่งให้นำสินค้าอุปโภคบริโภคไปวางไว้บนชั้นตามร้านค้าต่างๆ อย่างเต็มเปี่ยม ถนนหนทางที่คณะตัวแทนจะผ่าน สตาลินก็สั่งให้ล้างทำความสะอาดจนเอี่ยมอ่อง ชาวไร่ชาวนาที่ทำงานก็หาใช่ชาวไร่ชาวนาตัวจริงไม่ เพราะสตาลินให้สมุนของพรรคคอมมิวนิสต์ปลอมตัวไปเป็นชาวนาเหล่านั้น เพื่อไม่ให้ต่างชาติได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของผู้คน แผนการของสตาลินแยบยลจนทำให้ตัวแทนของหลายชาติหลงเชื่อ หลังจากการเดินทางกลับของบรรดาตัวแทนเหล่านั้น พวกเขาก็ได้กล่าวว่าข่าวลือที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้นั้นไม่ได้เป็นความจริง เพราะดินแทนที่พวกเขาได้ไปเยือนมาจริงๆแล้วคือดินแดนที่แสนจะอุดมสมบูรณ์

ในที่สุดในปี 2003 องค์การอนามัยโลกก็ได้รับรู้ถึงโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นจากความอดอยากของดินแดนอดีตสหภาพโซเวียต ในการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติครั้งที่ 58 ประเทศรัสเซีย ยูเครน และอดีตเครือสหภาพโซเวียต จึงได้ออกแถลงการณ์ร่วมและแสดงถึงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมในครั้งนั้น ปัจจุบันในวันเสาร์สุดท้ายของเดือน พฤศจิกายน ผู้ไว้อาลัยจะเดินทางไปยังอนุสาวรีย์พร้อมกับดอกไม้และรวงข้าวเพื่อแสดงถึงการไว้อาลัยในเหตุการณ์ครั้งนั้น.....

ที่มา: http://www.bugaga.ru/interesting/1146737690-10-samyh-bolshih-sekretov-sovetskogo-soyuza.html#ixzz2xKXAizEU

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้